"ตักบาตรเทโว" มาจากคำเต็มว่า "ตักบาตรเทโวโรหณะ" คือ การตักบาตร แดพระุพุทธเจ้า เมื่อคราวเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว เทศนาโปรดประชาชน ในแคว้นต่าง ๆ ในชมพูทวีปตอนเหนือ ตั้งแต่เมืองราชคฤห์ เมืองพาราณสี เมืองสาวัตถี ตลอดถึงเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นปิตุภูมิของพระองค์ ทรงเทศนาโปรดพระประยูรญาติ ทั้งหลายและพระพุทธบิดา แล้วทรงปรารถนาจะสนองคุณพระมารดา ซึ่งหลังจาก ประสูติพระองค์แล้วได้ 7 วัน ทรงสิ้นพระชนม์และได้ไปอุบัติเป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ ชั้นดุสิต ในพรรษาที่ 7 หลังจากตรัสรู้ พระพุทธองค์จึงเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมปิฎก โปรดพุทธมารดาอยู่พรรษาหนึ่ง (เหตุที่ทรงใช้ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นที่แสดงพระธรรมเทศนา ด้วยทรงพระประสงค์ จะโปรดเทวดา ชั้นต่ำด้วย หากพระองค์เสด็จไปชั้นดุสิต เทวดาชั้นดาวดึงส์ จะขึ้นไปชั้นดุสิตไม่ได้ เหมือนประชาชนจะเข้าวังได้ยาก แต่ราชสกุลออกมาฟังกับประชาชนได้) พอถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 11 จึงเสด็จลงมาประทับที่เมืองสังกัสสะ ประชาชนพากันไปเฝ้าพระพุทธองค์ เพื่อทำบุญตักบาตรอย่างหนาแน่น การทำบุญตักบาตรในวันที่พระพุทธองค์ เสด็จลงจากเทวโลก จึงเรียกว่า "การตักบาตรเทโวโรหนะ" หรือ "ตักบาตรเทโวฯ" และพุทธศาสนิกชนได้ยึดถือปฏิบัติสืบเนื่องตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ประเพณีการทำบุญ ตักบาตรเทโว เป็นประเพณีที่ปฏิบัติคล้ายคลึงกันในทุกวัดทั่วประเทศ ดังจะเห็นได้จาก
พระพุทธเจ้า ทรงโปรดพุทธมารดา
|
พระพุทธเจ้า เสด็จลงจากดาวดึงส์
|
พระพุทธเจ้าทรงเปิดโลก
|
ที่จังหวัดกาญจนบุรี
วัดบ้านถ้ำจัดประเพณีตักบาตรเทโวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 จนถึงปัจจุบัน โดยทำ ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุึกปี ชาวบ้านจะถือเป็นเทศกาลพิเศษที่มาร่วมกัน ตักบาตรเทโวอย่างพร้อมเพรียงกัน เนื่องจากวัดบ้านถ้ำ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขา พระครูกาญจโนภาส (หลวงพ่ออุ่น ป.ธ. 4) เป็นผู้ริเริ่มจัดถ้ำใหญ่ให้สมมติ เป็นสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วนิมนต์พระสงฆ์จากอารามต่าง ๆ มารับอาหาร บิณฑบาต โดยมีผู้แต่งกายเป็นเทวบุตรเดินลงมาจากถ้ำคูหามังกรสวรรค์ (ถ้ำนางบัวคลี่) เป็นแถวมาตามขั้นบันได ซึ่งประดับประดาไปด้วยธงทิว ทั้งสองข้างทาง มีขบวนตามมาข้างหลัง ประกอบด้วย พระอินทร์ พระพรหม เหล่าเทพบุตรเทพธิดา เหล่าฝูงเปรตอสูรกายเดินลงตามพระสงฆ์ลงมาเป็นแถว ๆ เป็นการจำลองตอนพระเจ้าเปิดโลก อาหารที่ชาวบ้านนิยมนำมาตักบาตรเทโว นอกจากจะเป็นข้าวปลาอาหารธรรมดาแล้ว จะมีข้าวต้มมัดใต้ ข้าวต้มลูกโยน หรือข้าวต้มผัดหรือที่เรียกว่า "ข้าวต้มมัด"
การที่ชาวบ้านถือเป็นประเพณีที่จะต้องมีข้าวต้มมัด หรือข้าวต้มลูกโยน ในการตักบาตรเทโว เนื่องจากชาวบ้านพากันมาจากท้องถิ่นไกล ๆ เพื่อมาใส่บาตร ฉะนั้นอาหารหรือเสบียงกรังที่ติดตัวมา จึงเป็นอาหารที่ไม่บูดเสียง่าย แบ่งปันกันสะดวก อยู่ไกลก็โยนให้กันได้ เมื่อมีเสบียงประเภทนี้ติดตัวมา จึงใส่บาตรพระด้วยเสบียงดังกล่าว
พุทธศาสนิกชนทำบุญตักเทโวโรหนะในวันออกพรรษา
|
เมื่อเสร็จสิ้นพิธีตักบาตรเทโวแล้ว จะมีเทศน์พิเศษให้ชาวบ้านฟัง เรียกว่า เทศน์เรื่อง เทโว คือเทศน์เรื่องพระพุทธเจ้าเปิดโลก ที่จังหวัดอุทัยธานี
ประเพณีตักบาตรเทโวที่วัดสังกัสรัตนคีรี จังหวัดอุทัยธานี เป็นงานประเพณี ที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของจังหวัด และจัดได้สอดคล้องกับตำนานมาก โดยสมมติ ให้มณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสะแกกรัง เป็น "สิริมหามายากุฎาคาร" มีบันไดทอดยาวจากมณฑปลงสู่บริเวณลานวัดสังกัสรัตนคีรี ซึ่งอยู่เชิงเขาสะแกกรัง เปรียบเสมือนบันไดทิพย์ที่ทอดยาวจากสวรรค์ดาวดึงส์ สู่เมืองสังกัสนคร
ประเพณีไทยการตักบาตรเทโวของวัดสังกัสรัตนคีรี เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ก่อนออกพรรษา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี จะตีระฆังที่หน้ามณฑป บนยอดเขาสะแกกรัง เสียงระฆังจะดังกังวานไปไหลเป็น สัญญาณว่า เทศกาลงานตักบาตรเทโวเริ่มขึ้นแล้ว และพระสงฆ์ 9 รูป จะเจริญพระพุทธมนต์บนยอดเขา มีการแสดงปาฐกถาธรรม จุดพลุ ตะไล ไฟพะเนียง สวยงาม วันรุ่งขึ้น (แรม 1 ค่ำ เดือน 11) ตอนสาย ๆ จะอัญเชิญพระพุทธรูปปางเปิดโลก ขึ้นเสลี่ยงคานหาม โดยมีผู้แต่งชุดนุ่งขาวห่มขาวสมมติเป็นเทวดาหามเสลี่ยง ลงมาจากยอดเขา ตามด้วยขบวนพระภิกษุสงฆ์ทุกรูป ที่จำพรรษาในเขตอำเภอเมือง อุ้มบาตรลงมาจากยอดเขา เดินลงมาตามบันได สู่บริเวณเชิงเขาด้านล่าง
ส่วนชาวพุทะทางจังหวัดภาคใต้ของไทย นิยมจัดงานประเพณีชักพระหรือขบวนแห่พระพุทธรูปทั้งทางบก และทางน้ำแทนประเพณีตักบาตรเทโว
ประเพณีการตักบาตรเทโว นับว่าเป็นประเพณี ที่สืบเนื่องพุทธศาสนาอันเป็นพิธีมงคลที่สมควรอนุรักษ์ไว้ เพราะประเพณีนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นว่า พุทธศาสนิกชนยังมีความเลื่อมใสศรัทธา ในพระพุทธศาสนาแล้ว ยังมีคุณค่าด้านอื่นอีก ได้แก่
พิธีตักบาตรเทโว ที่ขึ้นของวัดสังกัสรัตนคีรี จังหวัดอุทัยธานี
|
จากตำนานความเป็นมาของการตักบาตรเทโว ที่กล่าวว่า พระพุทธองค์ทรงระลึกถึงพระคุณ ของพระราชชนนี จึงเสด็จไปเทวโลก เพื่อแสดงธรรม ให้พระราชชนนีบรรลุโลกุตตรธรรม แสดงให้เห็น ถึงความกตัญญูกตเวทีที่ลูกมีต่อแม่
ประชาชนจำนวนมากจากต่างถิ่นที่อยู่กัน มากระทำพิธี ตักบาตรร่วมกัน แสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในอันที่จะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา มีความสมัครสมาน สามัคคีกันระหว่างบ้านกับวัด
ในวันสำคัญเช่นนี้ พระสงฆ์ก็ได้ปฏิบัติศาสนกิจ ตามหน้าที่ของสงฆ์ได้แผ่เมตตา โปรดสัตว์ ได้แสดง พระธรรมเทศนาสั่งสอนให้ประชาชนกระทำความดี การปฏิบัติต่าง ๆ เหล่านี้ของพระสงฆ์นับได้ว่า เป็นการเผยแพร่ศาสนาโดยตรง
การที่ประชาชนยังยึดมั่นในประเพณีและปฏิบัติศาสนกิจ ในวันสำคัญทางศาสนาเช่นนี้ นับว่าเป็นการทำนุบำรุง พระพุทธศาสนาโดยตรง
ประเพณีการทำบุญตักบาตรเทโว จึงเป็นประเพณี ที่สมควรอนุรักษ์ไว้มิให้สูญหายไป เพราะประเพณีที่ดี บ่งบอกให้เห็นถึงความศรัทธาเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา จากความเป็นมาของประเพณีก็มีส่วนทำให้ผู้มาทำบุญ ตักบาตรเทโวในวันนี้ มีจิตใจระลึกถึงพระคุณของมารดา ผู้ให้กำเนิด ดังนั้น เพื่อให้ประเพณีการทำบุญ ตักบาตรเทโว ยังคงอยู่กับพระพุทธศาสนาตลอดไป จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่พุทธศาสนิกชนทุกคน รวมทั้งทางวัด จะต้องร่วมมือร่วมใจกันโดยสืบทอดประเพณีและจัดให้มี ประเพณีการทำบุญตักบาตรเทโวทุกปีอย่างสม่ำเสมอ
เรียบเรียงใหม่โดย http://ที่นี่ประเพณีไทย.blogspot.com
ให้คะแนนกับบทความนี้:
{[['']]}