ประกอบด้วย
1. ไม้ค้ำ มีลักษณะเป็นไม้ง่าม ๓ อัน สำหรับนำมาประกอบกันเป็นซุ้ม เรียกว่า ไม้ค้ำชะตา แต่ด้วยลักษณะไม้ค้ำที่มีขนาดใหญ่และยาวพอประมาณจึงเรียกว่า ไม้ค้ำหลวง บางแห่งก็มีขนาดยาว บางแห่งก็มีขนาดสั้นพอประมาณแล้วแต่ความนิยมของแต่ละท้องถิ่น แต่ส่วนมากนิยมใช้ขนาดยาวเท่ากับวาแขนหรือความสูงของเจ้าของชะตา ไม้ค้ำมีความหมายว่าเพื่อให้เป็นสิ่งค้ำจุนชีวิตให้มีความเจริญรุ่งเรืองมีอายุยืนยาวเปรียบเสมือนต้นไม้ที่ใกล้จะล้ม หากมีไม้มาค้ำไว้ก็จะทำให้เจริญงอกงามต่อไป เหมือนชีวิตคนเราที่ได้รับการค้ำชูย่อมจะมีความสุขความเจริญต่อไปฉันใดก็ฉันนั้น
2. กระบอกน้ำ กระบอกทราย กระบอกข้าวเปลือก กระบอกข้าวสาร หมายถึง ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้คนเรามีความแข็งแรงยิ่งขึ้น
3. สะพาน (ขัว) หมายถึง สะพานแห่งชีวิตที่ทอดให้เดินข้ามจากฝั่งที่เลวร้ายไปสู่ฝั่งที่ดีงามกว่า
4. บันได (ขั้นได) หมายถึง บันไดแห่งชีวิต สำหรับพาดให้เราปีนป่ายขึ้นสู่ที่สูง เสมือนคนเราตกบ่อน้ำแล้วต้องปีนป่ายด้วยบันไดออกจากบ่อน้ำ
5. ลวดเงิน ลวดคำ ลวดหมาก ลวดเหมี้ยง หมายถึงความเจริญรุ่งเรืองของชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สินเงินทองและอาหารการกิน
6. ไม้ค้ำขนาดเล็ก ไม้ค้ำขนาดเล็กยาวเท่าศอกของเจ้าของชะตาต่างกับไม้ค้ำหลวงที่มีขนาดเท่าวาหรือความสูง ไม้ค้ำเล็กมีจำนวนเท่าอายุของเจ้าของชะตา แต่นิยมให้มีจำนวนเกินอายุไปประมาณ ๒-๓ อัน เพื่อให้มีอายุยืนยาวขึ้นไปอีก
7. ช่อ ทำจากกระดาษสีขาวจำนวน ๑๐๘ อัน
8. ตุงค่าคิง หรือตุงชะตา มีขนาดความยาวเท่าความสูงของเจ้าของชะตา
9. เทียนค่าคิง หรือเทียนชะตา มีขนาดความยาวเท่ากับความสูงของเจ้าของชะตาเหมือนกัน แต่ต่อมาภายหลังเห็นว่า เทียนมีขนาดยาว เมื่อจุดไฟจะทำให้งอ ก็เลยสีด้วยขี้ผึ้งประมาณคืบหนึ่ง ส่วนฝ้ายที่เป็นไส้เทียนนั้นยังมีขนาดยาวเท่าความสูงผู้สืบชะตาอยู่
10. พระเจ้าไม้ หรือพระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยไม้ สำหรับนำมาประดิษฐานที่ยอดไม้ค้ำ แต่เดิมไม่มีพระพุทธรูป ครั้นต่อมาเมื่อพุทธศาสนาเผยแผ่เข้ามาสู่ล้านนาจนมีความเจริญรุ่งเรืองก็มีการผสมผสานระหว่างพิธีพุทธและพิธีพราหมณ์ จึงนำพระพุทธรูปไม้มาประดิษฐานบนยอดไม้ค้ำเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งพุทธศาสนา
11. หน่อกล้วย หน่อยอ้อย หน่อหมาก หน่อมะพร้าว มีความหมายว่า คนที่ได้รับการสืบชะตาจะมีชีวิตที่เหมือนกับได้เกิดใหม่แล้วจะมีความหอมหวาน มีความเจริญงอกงาม เหมือนต้นกล้วย ต้นอ้อย ต้นหมาก ต้นมะพร้าวที่พร้อมจะเจริญเติบโตต่อไป
12. สื่อใหม่ (สาด) หมอนใหม่ มีความหมายว่า ผู้ที่สืบชะตาแล้วจะมีความสุขสบายและนอนหลับฝันดี
เครื่องสืบชะตาทั้งหมดนี้เมื่อนำมาประกอบกันจัดให้เป็นระเบียบตามแบบโบราณพิธีเรียกว่า โขงชะตา ถือเป็นบริเวณพิธีหรือเขตศักดิ์สิทธิ์สำหรับสืบชะตาให้มีความสุขความเจริญต่อไป
การประกอบพิธีสืบชะตานั้น อันดับแรกอาจารย์จะทำพิธีปัดเคราะห์ ส่งเคราะห์ก่อนแล้วจึงทำพิธีสืบชะตาทีหลัง เพื่อให้เคราะห์ภัยที่มีอยู่ในตัวเราสูญไป แล้วจึงทำพิธีสืบชะตาให้มีความสุขความเจริญ เมื่อทำพิธีสืบชะตาเสร็จแล้ว เครื่องบูชาทั้งหลายจะนำไปใช้สาธารณะประโยชน์ต่อไป กล่าวคือ
ไม้ค้ำ นำไปค้ำต้นไม้ประจำหมู่บ้าน หรือไม้หมายเมือง แต่ปัจจุบันคนสมัยใหม่ไม่เข้าใจวิถีปฏิบัติตามแบบโบราณ มักจะนำไม้ค้ำไปวางไว้ที่ใต้ต้นสรี (ต้นศรีมหาโพธิ์)
สะพาน นำไปพาดร่องน้ำหรือลำเหมืองเล็ก เพื่อเป็นสะพานให้ผู้คนเดินข้ามลำเหมืองนั้น
หน่อกล้วย หน่อยอ้อย หน่อหมาก หน่อมะพร้าว นำไปปลูกในที่สาธารณะของหมู่บ้านหรือป่าหมู่บ้าน บางคนอาจจะปลูกริมร่องน้ำสาธารณะก็ได้ เมื่อผลิดอกออกผล ใครจะเก็บไปกินไปใช้ก็ไม่มีใครว่า เพราะถือเป็นของสาธารณะ
การประกอบพิธีสืบชะตาของพ่อหนานศรีเลา เกษพรหม แต่งกายด้วยชุดสีขาวหรือชุดสุภาพพร้อมกับมีผ้าพาด การประกอบพิธีแต่ครั้งจะเป็นผู้กำหนดวัน เวลา และเครื่องประกอบพิธีตามที่สืบทอดมาแต่โบราณกาลอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การประกอบพิธีมีความถูกต้องและสมบูรณ์ อันจะทำให้เจ้าของชะตามีความสุขความเจริญต่อไป
เรียบเรียงใหม่โดย http://ที่นี่ประเพณีไทย.blogspot.com
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก folklore.culture.go.th
ให้คะแนนกับบทความนี้:
{[['']]}